หน้าเว็บ

กิจวัตรยามเช้า พระภิกษุ สามเณร

ภาพถ่าย หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตมหาเถร + คำคม คำสอน

รวมภาพถ่าย (คลิ๊กที่รูปเพื่อชมภาพใหญ่)


หลวงปู่มั่น 1
หลวงปู่มั่น 3
หลวงปู่มั่น 2
ภาพที่ 1
ภาพที่ 2
ภาพที่ 3
หลวงปู่มั่น 4
หลวงปู่มั่น 5
หลวงปู่มั่น 6
ภาพที่ 4
ภาพที่ 5
ภาพที่ 6
หลวงปู่มั่น 7
หลวงปู่มั่น 8
ภาพที่ 7
ภาพที่ 8
หลวงปู่มั่น 9
ภาพที่ 9


" ....ท่านทั้งหลาย จงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้ง ตัวหนอน คอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรม อันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว  แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า  มาเป็นสมบัติของตน  ด้วยความเข้าใจผิด
ว่าตนเรียนรู้ และ ฉลาดพอตัวแล้ว  ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจ ยิ่งกว่าภูเขาไฟ  มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย
จงพากันมีสติ คอยระวังตัว  อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและ ตายทิ้งเปล่า
ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัวอย่างแท้จริง ติดตัวบ้างเลย"
....นี่คือคำสอน ที่องค์หลวงปู่มั่น เคยพูดอยู่เสมอๆ



        "ผู้ถือไม่มีบาป ไม่มีบุญ ก็มากมายเข้าแล้ว แผ่นดินนับวันแคบ มนุษย์แม้จะถึงตาย ก็นับวันมากขึ้น นโยบายในทางโลกีย์ใดๆก็นับวันประชันขันแข่งกันขึ้น พวกเราจะปฏิบัติลำบากในอนาคต เพราะเนื่องด้วยที่อยู่ไม่เหมาะสม เป็นไร่เป็นนาจะไม่วิเวกวังเวง
        ศาสนาทางมิจฉาทิษฐิ ก็นับวันจะแสดงปฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย
        ฉะนั้น พวกเราทั้งหลาย จงรีบเร่งปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่แก่ธรรมดังไฟที่กำลังใหม้เรือน จงรีบดับเร็วพลันเถิด ให้จิตใจเบื่อหน่ายคลายเมาวัฏสงสาร ทั้งโลกภายในหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ทั้งโลกภายนอกที่รวมเป็นสังขารโลก ให้ยกดาบเล่มคมเข้าสู้ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาติดต่ออยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนเถิด
        ความเบื่อหน่ายคลายเมาไม่ต้องประสงค์ ก็จะต้องได้รับแบบเย็นๆและแยบคายด้วยจะเป็นสัมมาวิมุตติ และสัมมาญาณะอันถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยดอก
       พระธรรมเหล่านี้ไม่ล่วงไปไหน มีอยู่ ทรงอยู่ในปัจจุบัน จิตในปัจจุบัน ที่เธอทั้งหลายตั้งอยู่หน้าสติ หน้าปัญญา อยู่ด้วยกัน กลมกลืนในขณะเดียวนั้นแหละ" 
โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น (บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต) จากหนังสือ"เพชรน้ำหนึ่ง"



โอวาทธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร
บันทึกธรรมโดย หลวงปู่หลุย จันทสาโร
พ.ศ. ๒๕๘๓ ณ วัดป่าโนนนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี
 
____________________________
( จากหนังสือ " บูรพาจารย์ " โดยมูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๔ )

  • นโลกนี้เป็นธาตุทั้งนั้นให้รู้เท่าทันกับธาตุอย่าหลงตามธาตุ
  • ให้เห็นปัจจุบันธรรม อย่าส่งจิตอนาคตและอดีต
  • ธาตุ ๘๔,๐๐๐ ธาตุออกมาจากจิตหมด
  • นิโรธเป็นของดับเพราะรู้เท่าแล้ว จิตไม่เกิดยินดี ยินร้าย ดับไปเช่นนี้ ชื่อว่านิโรธ
  • แสดงฌานเป็นที่พักชั่วคราวแล้วเจริญต่อๆ ไป
  • ให้เอากาย วาจา ใจนี้ยกขึ้นพิจารณา อย่าเพิ่มอย่าเอาออก ให้เห็นเป็นปกติ
  • มรรค ๘ นั้น สมาธิมรรคเป็นองค์ ๑ นอกนั้นเป็นปริยาย
  • ให้รู้ธรรมะและอาการของธรรมถึงขั้นละเอียดแล้วก็จะรู้เองเห็นเอง
  • ถ้าส่งจิตใจต้องเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่สุดจึงจะรู้ธรรมเห็นธรรม
  • เกิดตาย เกิดแล้วตาย ชมแต่หนังของเก่า อย่าไปเอามา ให้รู้เฉพาะปรกติของจิต
  • แสดงฐานของธรรมะเป็นบ่อเกิดอริยสัจของจริง
  • แสดงตนดูถูกท่านว่าท่านเป็นคนโกรธ เพราะผู้ฟังไม่เห็นตามความเป็นจริง
  • เพราะยุ่งแต่จิตของตัวเท่านั้น
  • เกิดความรู้อย่างพิเศษแล้วย่อมมหาอานิสงส์ประมาณไม่ได้
  • อัตฺตาหิ…. ฯลฯ เป็นของลึกลับเหลือที่สุด
  • ให้รู้ธาตุเห็นธาตุ จิตจึงไม่ติดทางราคะ
  • คนเราจะดีจะชั่วต้องเกิดวิบัติเสียก่อน
  • ท่านแสดงไม่อ้างสวรรค์ นิพพาน ไม่อ้างทุคติ อ้างความเป็นไปทางปัจจุบันอย่างเดียวเพราะชั่วดีก็ปัจจุบันที่ยังเป็นชาติมนุษย์
  • ความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นอนันตนัย มากมายยิ่งกว่า ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์เป็นอุบายที่จะทรมานสัตว์
  • พ้นวิสัยของสาวกที่จะรู้ตามเห็นตามได้ สาวกกำหนดรู้แต่เพียง ๘๔,๐๐๐ เท่านั้นก็เป็นอัศจรรย์
  • ท่านกำชับว่าอย่าให้จิตเพ่งนอก ให้รู้ในตัวเห็นในตัว เมื่อรู้ในตัวแล้วรู้ทั่วไป เพราะตัวเป็นต้นเหตุ
  • ให้แก้ปัจจุบัน เมื่อแก้ปัจจุบันได้แล้ว ภพ ๓ นั้นหลุดหมดไม่ต้องส่งอดีต อนาคต ให้ลบอดีตภายนอกให้หมด จึงจะเข้าอารมณ์ภายในได้ เพ่งนอกเป็นตัวสมุทัย
  • เป็นทุกข์และเป็นตัวมิจฉาทิฐิ เพ่งในเป็นตัวสัมมาทิฐิ เพ่งในตัวเป็นสัมมาทิฐิ
  • เล่นนิมิตก็ได้ ยินดียินร้ายก็ได้ เรียกว่าคุ้มเงาตน เชื่อนิมิตเป็นบ้า
  • ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น