|
หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน |
|
 |
หลายคนมักจะหันหน้าเข้าหาวัด ก็ต่อเมื่อยามที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจ
ไปไหว้พระ สงบสติหาความสงบ เพิ่มความสบายใจ
แต่เมื่อยามที่มีความสุขกายสบายใจ
กลับไม่ชอบเข้าวัดไหว้พระทำบุญสักเท่าไหร่ อันที่จริงแล้วการเข้าวัด ทำบุญ
ถือศีลภาวนานั้นเป็นเรื่องที่ดี
ที่เราชาวพุทธซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนควรยึดถือปฏิบัติ
และช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ดังนั้นทริปนี้ "ตะลอนเที่ยว" จึงขอหันหลังให้ทางโลกชั่วคราว แล้วหันหน้าเข้าหาทางธรรมไป"ตามรอยพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์แห่งอีสาน" กับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
สำหรับหลวงปู่มั่นเป็นพระเกจิสายวิปัสสนากรรมฐานวัดป่า
ซึ่งที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากอัตชีวประวัติ
ระบุว่า ท่านเกิดในสกุลแก่นแก้ว เมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม
ตรงกับวันที่ 20 ม.ค. 2413 ที่บ้านคำบง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
มีบิดาคือนายคำด้วง มารดาคือนางจันทร์
หลวงปู่มั่นมีบุคลิกลักษณะ ร่างเล็ก ผิวขาวแดง คล่องแคล่ว ว่องไว
สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความประพฤติ อัธยาศัยเรียบร้อย ว่าง่ายสอนง่าย
ชอบศึกษาธรรมะ
|
|
พระพุทธรูปแกะจากไม้ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดศรีอุบลรัตนาราม |
|
 |
อายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณรได้ 2 ปี ลาสิกขามาช่วยงานทางบ้าน พออายุ 22
ปีได้มาศึกษาธรรมที่วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี กับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล
จากนั้นอายุ 24 ปี ได้บรรพชาอุปสมบทที่วัดศรีทอง จ.อุบลฯ
แล้วท่านได้แสวงหาวิเวกบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่าง ๆ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เดินธุดงค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือระยะแรก 24 พรรษา
บั้นปลายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 พรรษา ที่วัดป่าบ้านหนองผือ 5 พรรษา
มรณะภาพ ปี 2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร รวมอายุ 80 ปี
เมื่อได้รู้ประวัติของหลวงปู่มั่นกันพอสมควรแล้ว เราเริ่มออกทัวร์ตามรอยหลวงปู่มั่นกันเลยดีกว่าเริ่มด้วยสถานที่แรก วัดศรีทอง หรือ วัดศรีอุบลรัตนาราม(อ.เมือง จ. อุบลราชธานี) เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นได้บรรพชาเป็นพระภิกษุ และได้รับการขนานนามมคธว่า "ภูริทัตโต" ที่แปลว่า "ผู้ให้ปัญญา ผู้แจกจ่ายความฉลาด"
วัดศรีทองมีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กทม.
เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจ.อุบลราชธานี
ที่มีความงามสง่าตามพุทธลักษณะอีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ศรีอุบลรัตนาราม
ที่ภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุน่าสนใจไว้มากมาก อาทิ พระพุทธรูปแกะจากไม้
ตู้เก็บพระไตรปิฎกที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ตู้เก็บคัมภีร์ใบลาน
บาตรและเชิงบาตรสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ฯลฯ
|
|
รูปหล่อ 5 บูรพาจารย์ประดิษฐานอยู่ภายในสิมที่วัดบูรพาราม |
|
 |
จากวัดศรีทองเราเดินทางมายัง วัดบูรพาราม (ต.ในเมือง
อ.เมือง จ.อุบลฯ)
วัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่มั่นท่านมาศึกษาวิปัสสนากับพระอาจารย์เสาร์
กันตสีโล ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
สิม(โบสถ์) แบบทึบ หันหน้าสู่แม่น้ำมูล ก่อสร้างด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม
ตัวฐานอาคารก่อด้วยอิฐถือปูน ผนังภายในเป็นไม้ระแนงฉาบดินเหนียวผสมน้ำ ฟาง
และฉาบทับด้วยปูนขาว
ภายในมีรูปหล่อของ 5 บูรพาจารย์คือ พระอาจารย์สีทา ชัยเสโน
พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระญานวิศิษย์สิงห์
ขันตญาคโม และพระสิทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (สี ธัมมธโร)
ให้ได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
|
|
ศาลาอนุสรณ์สถานบ้านเกิด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต |
|
 |
หลังเที่ยวชมวัดบูรพารามจนอิ่มใจแล้ว "ตะลอนเที่ยว"ออกเดินทางต่อไปยังบ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ณ บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลฯ เพื่อสักการะ อนุสรณ์สถานบ้านเกิดหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ภายในมีรูปหล่อหลวงปู่มั่นให้ได้กราบสักการระกัน
ตรงกันข้ามกับอนุสรณ์ฯหลวงปูมั่นเป็นที่ตั้งของ "วัดศรีบุญเรือง"หรือ"วัดบ้านคำบง" วัดที่หลวงปู่มั่นได้มาบรรพชาเป็นสามเณร
วัดนี้มีอาคารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีการบรรจุพระอัฐิธาตุ
และมีหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่มั่น ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบเคารพบูชา
|
|
ถ้ำที่วัดภูหล่น ที่วิปัสสนากัมมัฎฐานของหลวงปู่มั่น |
|
 |
จากบ้านคำบง เราไปต่อยัง ภูหล่น หรือ วัดภูหล่น (ต.สงยาง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลฯ) สถานที่ที่หลวงปู่มั่นเริ่มฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่เสาร์เป็นที่แรก
ภูหล่น เป็นภูเขาขนาดย่อม มีต้นไม้ปกคลุมสลับกับโขดหินน้อยใหญ่
มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น ด้านบนมีลานหินกว้างมีถ้ำอยู่ 2 ถ้ำ
ซึ่งพวกชาวบ้านช่วยขนหิน ดิน
ขึ้นมาสร้างเป็นถ้ำเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและกันสัตว์ร้ายรบกวน
มีถ้ำของหลวงปู่เสาร์ที่มีรอยเท้าเสือปรากฏอยู่
และถ้ำของหลวงปู่มั่นที่ท่านใช้ฝึกปฏิบัติวิปัสสนาธรรม
และมีรูปหล่อองค์หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น
และพระพุทธรูปให้ได้กราบไหว้เสริมมงคล
|
|
กุฏิหลวงปูที่วัดป่านาคนิมิตต์ |
|
 |
หลังจากเดินชมถ้ำบนภูหล่นได้สักครู่ เราลงจากภูเดินทางข้ามจังหวัดสู่ วัดป่านาคนิมิตต์ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าบ้านนามน
(บ้านนามน ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร)
วัดนี้หลวงปู่มั่นเคยมาจำพรรษาปฏิบัติธรรม
มีกุฏิที่ชาวบ้านจะสร้างกุฏิถวายแด่หลวงปู่มั่น
แต่ไม่รู้จะสร้างที่ใดในตอนกลางคืนพญานาคมาทำรอยเอาไว้ให้เหมือนขุดหลุมเสา
หลวงปู่มั่นก็ชี้บอกให้ชุดหลุมเสาตามรอยที่พญานาคทำไว้โดยไม่ต้องวัดหลุมเสาเลย
แล้วหลวงปู่มั่นก็บอกกับโยมว่าวัดนี้ให้ชื่อว่าวัดป่านาคนิมิตต์
ภายในวัดมีศาสนสถานสำคัญคือ
กุฏิหลวงปู่มั่นที่สร้างด้วยไม้ดูเงียบสงบ
ภายในประดิษฐานรูปหล่อเหมือนเท่าองค์จริง อัฐบริขาร
และภาพอริยาบทต่างๆขององค์ท่าน
|
|
รูปหล่อหลวงปู่มั่นและบริขารที่วัดป่าวิสุทธิธรรม |
|
 |
วัดป่าวิสุทธิธรรม หรือ วัดป่าบ้านโคก
(บ้านโคก ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร)
คือวัดต่อไปในการเดินทางครั้งนี้ สำหรับวัดแห่งนี้ท่านพระอาจารย์กงมา
จิรปุญโญ สร้างขึ้นให้หลวงปู่มั่นอยู่พำนักจำพรรษา
ภายในวัดมีกุฏิหลวงปู่มั่น มีศาลาโรงธรรมที่ท่านใช้เป็นที่อบรมสานุศิษย์
ภายในศาลามีหุ่นขี้ผึ้งเหมือนองค์จริง มีอัฐบริขารที่ท่านเคยใช้แสดงอยู่
และยังมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่อุ่น กัลยาณธัมโม
ภายในประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง อัฐิธาตุและอัฐบริขาร
ให้ได้สักการะกันก่อนที่จะออกเดินทางไปยังวัดต่อไปที่รออยู่
|
|
พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าสุทธาวาส |
|
 |
จากนั้น“ตะลอนเที่ยว”เดินทางต่อไปยัง วัดป่าสุทธาวาส
(ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร)
วัดนี้มีความสำคัญกับหลวงปู่มั่นเป็นอย่างมาก
เพราะเป็นวัดที่หลวงปู่มั่นเลือกที่ละสังขารที่นี่เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2492
เพราะหากตัวท่านต้องมรณภาพที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือนาใน
จะต้องมีงานศพของท่านที่นั้น
และชาวบ้านต้องฆ่าสัตว์เป็นจำนวนมากเพื่อมาเลี้ยงพระและญาติโยมที่มางาน
ด้วยความเมตตาสงสารสรรพสัตว์ ท่านจึงให้นำร่างที่ใกล้มรณภาพ
มาไว้ที่วัดป่าสุทธาวาสและจัดงานพระราชทานเพลิงศพท่าน ณ ที่นี้
ต่อมาได้สร้างพระอุโบสถครอบตรงที่ถวายเพลิงท่านไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมา
มาสักการะเป็นประจำ
ภายในวัดนี้มีสถานที่ที่สำคัญคือ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ภายในเป็นประดิษฐานรูปหล่อเหมือนองค์จริงหลวงปู่มั่น
และมีประวัติของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ มีอัฐิธาตุ
อัฐบริขารและสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ประจำสมัยที่ยังมีชีวิต
และมีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร
เป็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์ที่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้สร้างขึ้น
เพื่อบรรจุอัฐิธาตุอัฐบริขารหลวงปู่หลุย จันทสาโร
ลูกศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่นภายหลังจากที่ท่านได้มรณภาพแล้วให้ประชาชนได้มากราบเคารพบูชา
|
|
กุฏิที่หลวงปู่มั่นเคยจำพรรษาที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส |
|
 |
ที่วัดป่าสุทธาวาสมีสิ่งให้ชมมากมาย จึงใช้เวลานานสักหน่อย ก่อนที่จะเดินทางไปต่อยัง วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หรือ วัดป่าบ้านหนองผือ
(ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร) เป็นวัดที่หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
สร้างให้หลวงปู่มั่นจำพรรษา ตอนแรกให้ชื่อว่าวัดสันติวนาราม
ต่อมาหลังจากหลวงปู่มั่น มรณภาพแล้ว พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโร)
ได้เห็นถึงความสำคัญในสถานที่ที่หลวงปู่มั่นเคยพำนักจำพรรษาอยู่ถึง 5
ปีติดต่อกัน
จึงดำริให้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เพื่อเชิดชูบูชาคุณให้สอดคล้องกับนามฉายาของท่านพระอาจารย์มั่น
อันเป็นมงคลนามว่า วัดป่าภูริทัตตถิราวาส
|
|
วัดป่ากลางโนนภู่มีนิทรรศการชีวประวัติหลวงปู่มั่นให้ได้ชม |
|
 |
จากวัดป่าภูริทัตฯ จุดหมายต่อไปอยู่ที่ วัดป่ากลางโนนภู่
(บ้านกุดก้อม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร)
วัดอันเป็นที่ตั้งของศาลาไม้ที่ใช้เป็นที่พักขณะที่หลวงปู่มั่นอาพาธก่อนจะมรณภาพ
ภายในศาลามีรูปหล่อหลวงปู่มั่น มีพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุหลวงปู่มั่น
แคร่ที่ใช้หามหลวงปู่มั่นมาจากวัดป่าบ้านหนองผือ กลด มุ้งกลด ที่นอน
รวมทั้งสิ่งของที่ท่านเคยใช้เมื่อครั้งท่านอาพาธ
และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับชีวประวัติหลวงปู่มั่น ภาพถ่ายต่างๆ
ให้ได้ชมและศึกษาหาความรู้กัน
|
|
อัฐบริขารต่างๆ ของหลวงปู่มั่นมีให้ชมที่วัดป่าโนนนิเวศน์ |
|
 |
แล้วเราก็มาปิดทริปทัวร์ตามรอยธรรมหลวงปู่มั่นกันที่ วัดป่าโนนนิเวศน์
(อ.เมือง จ.อุดรธานี) วัดนี้หลวงปู่มั่นมาจำพรรษาหลังจากกลับจากเชียงใหม่
โดยมาจำพรรษาอยู่ถึง 2 พรรษา ภายในวัดมีกุฏิจำลองของหลวงปู่มั่นให้ได้ชมกัน
และยังมีวิหารหลวงปู่มั่น-หลวงปู่ภูมี
ซึ่งในวิหารได้บรรจุรูปเหมือนหลวงปู่มั่น และหลวงปู่ภูมี
ได้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้ขอพร แล้วยังมีอัฐบริขารบางส่วน
ชีวประวัติของหลวงปู่ทั้งสองให้ได้ศึกษา และคำสอนต่างๆ
ของหลวงปู่มั่นให้ได้จดจำนำไปปฏิบัติใช้ในประจำวัน
ดำเนินชีวิตเจริญตามรอยธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต...สาธุ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น